วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ยี่ห้อรถละดับ1000cc.

                  ยี่ห้อรถ1000cc  ที่คนนิยมสูง
  
อันดับ 5  Honda
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ cbr1000rr sp


อันดับที่ 4 Kawasaki
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ zx10

อันดับที่ 3 Yamaha
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ r1m
อันดับที่ 2 Ducati

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ducati 1299
อันดับ1  Bmw

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ s1000rr

รถ bigbike1000cc

                    10 อันดับรถ bigbike 1000cc.



10

Kawasaki Ninja H2

238 กิโลกรัม
Kawasaki Ninja H2 สุดยอดบิ๊กไบค์ที่ติดตั้งระบบอัดอากาศครั้งแรกในประเทศไทย มีกำลังมากถึง 200 แรงม้า พร้อมระบบควบคุมสเถียรภาพ เพื่อการควบเจ้า "นินจา ซูเปอร์ชาร์จ" อย่างปลอดภัย แม้น้ำหนักตัวที่ 238 กิโลกรัม จะมากกว่าใครใน 10 อันดับนี้ แต่ก็ยังนับว่าเบาหวิวสำหรับความแรงระดับนี้ ราคาอยู่ที่ 1,498,000 บาท (ดูรายละเอียด)
9

Kawasaki Ninja 1000 ABS

230 กิโลกรัม
Kawasaki Ninja 1000 ABS บิ๊กไบค์รุ่นใหญ่ที่เน้นการขับขี่นุ่มนวลมั่นคง แต่แรงไม่เป็นรองใคร และสามารถผลิตโครงสร้างให้มีน้ำหนักได้เบาพอตัวแค่ 230 กิโลกรัม แม้จะเป็นรุ่นที่มีอายุตลาดกว่า 2 ปีไปแล้วก็ตาม แต่ราคานี่สิคุ้มสุดๆ เพียง 629,000 บาท (ดูรายละเอียด)
8

Suzuki GSX-S 1000F ABS

214 กิโลกรัม
Suzuki GSX-S 1000F ABS สปอร์ตแรงรุ่นใหม่ล่าสุด (1 ส.ค.58) เพื่อเพิ่มทางเลือกให้นักเลงบิ๊กไบค์ที่ชื่นชอบความล้ำสมัยทางเทคโนโลยีทั้งระบบควบคุมการทรงตัว Traction Control ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้ระบบได้ถึง 3 โหมด ทั้งสปอร์ต, ขับขี่ในเมือง และถนนเปียกลื่น นับเป็นจุดเด่นในรถระดับนี้ พร้อมน้ำหนักตัวที่ไม่หนักไม่เบาเกินไป 214 กิโลกรัม จากการใส่อุปกรณ์ช่วยขับขี่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด นับว่าคุ้มค่าในราคาสุดคุ้มที่ 599,000 บาท (ดูรายละเอียด)
7

Honda CBR1000RR

211 กิโลกรัม
Honda CBR CBR1000RR ซูเปอร์สปอร์ตสายพันธุ์แรงตระกูลเดียวกับรถแข่ง MotoGP ได้รับการพัฒนาระบบการดูดอัดอากาศให้มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น ทำให้เครื่องยนต์แรงขึ้น ตัวรถมีน้ำหนักเบาลงเพียง 211 กิโลกรัม ทั้งยังมีการปรับตำแหน่งเบาะนั่งให้ควบคุมรถง่ายยิ่งขึ้นไปอีก และราคาก็เบาๆ ที่ 618,000 บาท (ดูรายละเอียด)
6

BMW S 1000 RR

204 กิโลกรัม
BMW S 1000 RR รถสปอร์ตพันธ์ุแรงเครื่องยนต์ 4 สูบ 1,000 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ และระบบวาล์วพิเศษที่ผลิตจากวัสดุไทเทเนียม บนตัวถังเฟรมอลูมิเนียมน้ำหนักเบา 198 แรงม้า พร้อมเทคโนโลยีควบคุมการขับขี่ที่ล้ำลึกระดับแถวหน้า แม้น้ำหนักตัวจะมากกว่ารุ่นอื่นๆ ที่ 204 กิโลกรัม แต่พละกำลังมหาศาลจะพาคุณทะลุ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในพริบตา และมาพร้อมกับราคาที่สมน้ำสมเนื้อ 1,050,000 บาท (ดูรายละเอียด)
5

Suzuki GSX-R 1000

203 กิโลกรัม
Suzuki GSX-R 1000 สุดยอดบิ๊กไบค์แนวสปอร์ตตัวแรง แม้ตัวถังจะดูใหญ่โต แต่เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยสามารถลดน้ำหนักลงได้เยอะอยู่ที่ 203 กิโลกรัม พร้อมความโดดเด่นในราคาโดนใจเพียง 799,000 บาท (ดูรายละเอียด)
4

Honda CBR1000RR Champion Special

201 กิโลกรัม
Honda CBR CBR1000RR Champion Special บิ๊กไบค์ที่ผลิตเพื่อฉลองความเป็นแชมป์ MOTO GP ปี 2014 มาพร้อมลวดลายสวยดุ และยังถูกปรับปรุงโครงสร้างและบางชิ้นส่วนทำให้มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นปกติเหลือเพียง 201 กิโลกรัม ด้วยราคาเร้าใจที่ 643,000 บาท (ดูรายละเอียด)
3

Yamaha YZF R1M

200 กิโลกรัม
Yamaha YZF R1M ตัวแรงอีกรุ่นที่เพิ่มสไตล์ความเป็นสปอร์ตถอดแบบจากตัวแข่ง MOTO GP มาพร้อมเฟรมน้ำหนักเบาและโครงสร้างที่พัฒนาใหม่ทั้งคัน จนมีน้ำหนักเพียง 200 กิโลกรัม ในราคา 1,199,000 บาท (ดูรายละเอียด)
2

Yamaha YZF R1

199 กิโลกรัม
Yamaha YZF R1 สุดยอดบิ๊กไบค์ 1,000 ซีซีที่ถอดแบบจากตัวแข่ง เพื่อถ่ายทอดความแรงและสปอร์ตให้ได้สัมผัส มาพร้อมเทคโนโลยีโครงสร้างและเครื่องยนต์ที่มีน้ำหนักเบาเพียง 199 กิโลกรัม และยังมีค่าตัวที่ไม่สูงนักแค่ 899,000 บาทเท่านั้น (ดูรายละเอียด)
1

MV Agusta F4 RR

190 กิโลกรัม
MV Agusta F4 RR เอ็มวี ออกุสต้า รถจักรยานยนต์ ขนาด 1,000 ซีซี บิ๊กไบค์สายเลือดอิตาลีแท้ทั้งคัน เทคโนโลยีระดับสนามแข่งและเครื่องยนต์สมรรถนะเยี่ยมจากโรงงานเดียวกับผลิตเครื่องยนต์เฟอรารี่ ทำให้น้ำหนักเบาหวิวสุดๆ เพียง 190 กิโลกรัมเท่านั้น ค่าตัวไม่เกินเอื้อมเพียง 1,899,000 บาท (ดูรายละเอียด)

วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

10อันดับรถเร็ว


                            เรื่องรถที่เร็วที่สุดในโลก

       


 อันดับที่ 10 : Zenvo ST1

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ zenvo st1
ภาพจาก zenvoautomotive

          ความเร็วสูงสุด : 375 กม./ ชม.
          อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม : 3 วินาที
          ราคา : ราคาเริ่มต้น 40 ล้านบาท (ราคาในต่างประเทศ)


          Zenvo ST1 ซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูงจากเดนมาร์กที่เริ่มจำหน่ายเมื่อปี 2009 โดยจำกัดจำนวนการผลิตอยู่เพียง 15 คันเท่านั้นและสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 375 กม./ชม. ส่วนอัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม. ใช้เวลาเพียง 3 วินาที ซึ่งความแรงระดับนี้มาจากเครื่องยนต์ V8 ขนาด 6.8 ลิตรที่พ่วงทั้งเทอร์โบและซูเปอร์ชาร์จ จนมีกำลังสูงสุด 1,104 แรงม้า ที่ 6,900 รอบ/ นาที และแรงบิด 1,430 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำเพียง 4,500 รอบ/ นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์แบบ 7 จังหวะที่ใช้แพดเดิลชิฟท์แบบรถแข่งสูตร 1 พร้อมโหมดอัตโนมัติยามต้องการขับแบบชิล ๆ

อันดับที่ 9 : Mclaren P1

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ mclaren p1


ภาพจาก mclaren

          ความเร็วสูงสุด : 391 กม./ ชม.
          อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม : 3.2 วินาที
          ราคา : ประมาณ 31 ล้านบาท (ราคาในต่างประเทศ)

          Mclaren F1 ถือว่าเป็นของวิเศษในปัจจุบันแม้จะเก่าแต่ก็เก๋าระดับตำนานด้วยตำแหน่ง Production Car ที่เร็วที่สุดในโลกในปี 1993 ด้วยความเร็ว 386 กม./ชม. ต่อมาในปี 1998 Mclaren P1 สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 391 กม./ชม. ด้วยเครื่องยนต์ทรงพลังของ BMW แบบ V12 ความจุ 6.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 618 แรงม้า

          และตั้งแต่ปี 1992 ถึง 998 Mclaren P1 ได้ถูกผลิตขึ้นทั้งหมดจำนวน 106 คัน ซึ่งในปี 2013 ที่งาน Pebble Beach Concours d'Elegance รถ Mclaren F1 หมายเลขแชสซีส์ 066 ได้ถูกประมูลไปด้วยมูลค่า 8.47 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว ๆ 265 ล้านบาท

อันดับที่ 8 : koenigsegg
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ koenigsegg

ภาพจาก koenigsegg

          ความเร็วสูงสุด : 395 กม./ ชม.
          อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม : 3.2 วินาที
          ราคา : ประมาณ 21 ล้านบาท (ราคาในต่างประเทศ)


          Koenigsegg CCX ซูเปอร์คาร์จากสวีเดนที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2005 ใช้เครื่องยนต์อะลูมิเนียมแบบ V8 ขนาด 4.7 ลิตร พ่วงด้วยซูเปอร์ชาร์จ 2 ลูก ให้กำลังสูงสุด 806 แรงม้า และหากเป็นรุ่น CCXR นั้นสามารถเติมน้ำมันเบนซิน E85 รวมถึง E100 ได้ และมีกำลังสูงสุดถึง 1,030 แรงม้า แรงบิด 1,060 นิวตันเมตร ที่ 5,600 รอบ/ นาที และทาง Koenigsegg ได้ระบุว่าสามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 400 กม./ ชม. (โดยประมาณ)

อันดับที่ 7 : Saleen S7 Twin-Turbo

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Saleen S7 Twin-Turbo
ภาพจาก flick

          ความเร็วสูงสุด : 399 กม./ ชม.
          อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม : 2.8 วินาที
          ราคา : 18.3 ล้านบาท (ราคาในต่างประเทศ)


          Saleen S7 Twin Turbo เป็นซูเปอร์คาร์ที่ประกอบด้วยมือจากฝั่งอเมริกาที่ผลิตในช่วงปี 2005-2009 ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงของ Saleen S7 ให้มีสมรรถนะที่ดีขึ้นด้วยการติดตั้งเทอร์โบคู่ของ Garrett ให้กับเครื่องยนต์อะลูมิเนียมแบบ V8 ขนาดความจุ 7.0 ลิตร ของฟอร์ด จนได้กำลังสูงสุด 750 แรงม้าที่ 6,300 รอบ/นาที และแรงบิด 900 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที รวมไปถึงปรับปรุงแอร์โรพาร์ทรอบคันรวมถึงดิฟฟิวเซอร์ทั้งด้านหน้าและหลังใหม่เพื่อให้ได้แรงกดตัวถังเพิ่มขึ้นอีก 60%

อันดับที่ 6 : Bugatti Veyron Grand Sport Vitesse

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Bugatti Veyron Grand Sport Vitesse
ภาพจาก bugatti

          ความเร็วสูงสุด : 408 กม./ ชม.
          อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม : 2.6 วินาที
          ราคา : 70 ล้านบาทโดยประมาณ (ราคาในต่างประเทศ)


          Bugatti Veyron Grand Sport Vitesse เปิดตัวครั้งแรกในงาน เจนีวา มอเตอร์โชว์ ในปี 2012 เพื่อสร้างสถิติโลกรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกด้วยเครื่องยนต์ W16 สูบ ขนาดความจุ 8.0 ลิตร และเทอร์โบอีก 4 ตัว ที่ให้กำลังสูงสุด 1,200 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที และแรงบิด 1,500 นิวตันเมตร ที่ 3,000-5,000 รอบ/นาที

          สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 408.8 กม./ชม. รวมถึงอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 2.6 วินาที แต่อย่างไรก็ตามสำหรับการใช้งานบนถนนทั่วไป Bugatti Veyron Grand Sport Vitesse จะถูกจำกัดความเร็วไว้ด้วยกล่องควบคุมให้วิ่งได้แค่ 375 กม./ ชม. เท่านั้น

อันดับที่ 5 : SSC Ultimate Aero TT

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ SSC Ultimate Aero TT
ภาพจาก sscnorthamerica

          ความเร็วสูงสุด : 412 กม./ ชม.
          อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม :  วินาที
          ราคา 22 ล้านบาท (ราคาในต่างประเทศ)


          SSC Ultimate Aero TT ชื่อนี้อาจจะงงแต่ถ้าบอกว่า SSC ย่อมาจาก Shelby SuperCars หลายคนก็คงจะร้องอ๋อ และนี่คือซูเปอร์คาร์จากอเมริกันอีกหนึ่งคันที่ได้ครองตำแหน่ง Production Car เร็วที่สุดในโลกจาก กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด เมื่อปี 2007 ด้วยสถิติความเร็วสูงสุด 412.28 กม./ชม. ด้วยพลังจากเครื่องยนต์ V8 ขนาด 6.8 ลิตร เทอร์โบคู่ จากเชฟโรเลต คอร์เวตต์ ให้กำลังสูงสุด 1,300 แรงม้า

          อย่างไรก็ตาม SSC Ultimate Aero TT ได้ครองสถิติได้เพียง 2 ปี 9 เดือน ก็ถูก Bugatti Veyron Super Sport สอยลงข้างทางด้วยสถิติความเร็วใหม่ 431.07 กม./ ชม. แต่ในปี 2013 ก็เกิดดราม่าเล็ก ๆ เพราะกินเนสส์ยึดตำแหน่งคืนจาก Buggatti ทำให้ SSC Ultimate Aero TT กลับมาอยู่ในฐานะรถถนนที่เร็วที่สุดในโลกของกินเนสส์เหมือนเดิม

          แต่โชคก็ไม่เข้าข้าง SSC นัก เพราะเพียงไม่นานกินเนสส์ก็ได้ตัดสินใจคืนตำแหน่งรถที่เร็วที่สุดในโลกให้ Bugatti Veyron Super Sport อีกครั้ง และคาดว่า SSC คงจะเจ็บแค้นจนถึงตอนนี้จึงได้เตรียมเอาคืนด้วย SSC Tuatara ว่าที่รถเร็วที่สุดในโลกในอนาคต

อันดับ 4 : 9ff GT9-R

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ 9ff GT9-R
ภาพจาก 9ff

          ความเร็วสูงสุด : 414 กม./ ชม.
          อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม : 2.9 วินาที
          ราคา 22 ล้านบาท (ราคาในต่างประเทศ)


          9FF GT9-R ซูเปอร์คาร์หน้ากบที่ดูบ้องแบ๊วมากที่สุด ซึ่งตัวตนที่แท้จริงคือรถ Porsche 911 รุ่น GT3 รหัสตัวถัง 997 ที่ถูกสำนักแต่งจากเยอรมนีที่ใช้ชื่อว่า 9FF ที่ก่อตั้งโดยนาย Jan Fatthauer จับมาจุมพิตให้กลายเป็นสัตว์ร้ายด้วยการดัดแปลงตัวถังภายนอกใหม่หมดจนเกือบใกล้เคียงรถแข่ง

          จากนั้นยังโมดิฟายเครื่องยนต์ Boxer 6 สูบ ขนาด 4.0 ลิตร ให้มีพละกำลังในระดับ 1,120 แรงม้า หมายจะสร้างสถิติรถถนนที่วิ่งได้เร็วที่สุดด้วยความเร็วสูงสุดถึง 414 กม./ ชม. แต่ก็ยังได้แค่เพียงอันดับที่ 4 ในขณะที่ 9FF GT9-R ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ ชม. ได้ภายใน 2.9 วินาที ซึ่งต้องแสดงความเสียใจกับทาง 9ff ด้วยจริง ๆ

อันดับ 3 : Koenigsegg Agera R

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Koenigsegg Agera R
ภาพจาก koenigsegg

          ความเร็วสูงสุด : 418 กม./ ชม.
          อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม : 2.9 วินาที
          ราคา : 50 ล้านบาท (ราคาในต่างประเทศ)


          อันที่จริงแล้ว Koenigsegg Agera R ได้ระบุตัวเลขไว้ว่าสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 440 กม./ชม. จากเครื่องยนต์ V8 ขนาดความจุ 5.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลัง 1,140 แรงม้า ซึ่งยังไม่ได้รับการยืนยันในการทดสอบจริงถึงระดับนั้น และในรุ่นจำหน่ายจริง Koenigsegg Agera R ยังใช้ยางสมรรถนะสูงที่รองรับความเร็วสูงสุดแค่ 420 กม./ชม.
   
          อย่างไรก็ตามผู้ผลิตรถไฮเปอร์คาร์จากสวีเดนรายนี้ทำให้ Koenigsegg Agera R มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 2.9 วินาที และด้วยเวลาเพียง 14.53 วินาที หากจะทำความเร็ว 0-300 กม./ชม. ซึ่ง Hennessey Venom GT ทำได้เร็วกว่าด้วยเวลาแค่ 13.63 วินาที ตั้งแต่ปี 2013 แล้ว

          แต่สำหรับ Koenigsegg One ซึ่งผลิตเพียง 6 คันและขายหมดเกลี้ยงแล้วอาจมาเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งรถที่เร็วที่สุดในโลกในปีหน้า (แน่นอนว่าไม่ใช่ของกินเนสส์เพราะจำนวนการผลิตไม่ตรงข้อกำหนด) เพราะ Koenigsegg ระบุว่าวิ่งได้เร็วถึง 454 กม./ชม. เลยทีเดียว

อันดับ 2 : Bugatti Veyron Super Sport

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Bugatti Veyron Super Sport
ภาพจาก bugatti

          ความเร็วสูงสุด : 430 กม./ ชม.
          อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม : 2.4 วินาที
          ราคา : เริ่มต้น 55 ล้านบาท (ราคาในต่างประเทศ)


          Bugatti Veyron Super Sport ไฮเปอร์คาร์จากฝรั่งเศสมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ W16 สูบ ขนาด 8 ลิตร ที่มีพละกำลังถึง 1,200 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 ได้ภายใน 2.4 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 430.9 กม./ ชม. ซึ่งได้รับการยืนยันและถูกบันทึกอย่างเป็นทางการจาก กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ว่านี่คือรถ Production Car เร็วที่สุดในโลกเมื่อปี 2010

          ทั้งนี้สถิติ Production Car ที่เร็วที่สุดในโลกตามข้อกำหนดของกินเนสส์ ระบุว่าจะต้องมีจำนวนการผลิตขายให้กับคนทั่วไป จำนวนขั้นต่ำ 30 คัน (จริง ๆ แล้ว Bugatti Veyron เฉพาะรุ่น Supper Sport ก็ผลิตไม่ถึงจำนวนที่กำหนด แต่ทางกินเนสส์คงรวม Bugatti Veyron ทุกรุ่น) โดยไม่ใช่รถโมดิฟายขึ้นมาเป็นพิเศษเฉพาะกิจเพื่อบันทึกสถิติเท่านั้น และจะต้องวิ่งบนสนามรูปวงรี (Oval Track) ทั้ง 2 ทิศทางเพื่อนำมาหาค่าเฉลี่ย รวมถึงต้องเป็นรถที่ใช้งานบนถนนได้จริงอย่างถูกต้องตามกฎหมาย (ไม่ใช่รถแข่งที่วิ่งได้เฉพาะในสนามแข่งเท่านั้น)


          จากข้อกำหนดข้างต้นทำให้ในปี 2013 Bugatti Veyron Grand Sport ได้ถูกถอดออกจากสถิติรถยนต์ Production Car ที่เร็วที่สุดในโลกของกินเนสส์ไป ด้วยสาเหตุที่ Bugatti Veyron Grand Sport ที่จำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วไปนั้นถูกจำกัดความเร็วไว้ที่ 415 กม./ชม. ซึ่งหากเร็วกว่านี้จะเกินขีดจำกัดของยางที่ใช้จนอาจทำให้เกิดการระเบิดได้ และทางกินเนสส์ตีความว่ารถที่ใช้ในการวิ่งเพื่อบันทึกสถิติได้ถูกปลดล็อกความเร็วและถือว่า เป็นการ "ปรับแต่ง" (Modified) ไม่ตรงกับรุ่นที่จำหน่ายจริง ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของ กินเนสส์ ทำให้ SSC Ultimate Aero Twin Turbo ได้ขึ้นครองตำแหน่งแทน

          แต่ดราม่าเล็ก ๆ นี้เกิดขึ้นแค่ช่วงระยะสั้น ๆ เพราะไม่รู้ว่าเหตุใดกินเนสส์ จึงเปลี่ยนใจเพราะมีการตีความใหม่ว่าการจำกัดความเร็วในรุ่นจำหน่ายจริงไม่ถือเป็นการ "ปรับแต่ง" (Modified) เพราะไม่ได้กระทำการใด ๆ กับเครื่องยนต์ของรถที่ใช้บันทึกสถิติให้แรงขึ้นกว่ารุ่นที่ผลิตจำหน่าย Buggatti Veyron Super Sport จึงได้กลับเข้ามาครองตำแหน่งและเขี่ย SSC Ultimate Aero ให้ไปอยู่อันดับสองตามเดิม และแม้ในปัจจุบันจะมี Hennessy Venom GT ที่เร็วกว่า แต่ก็ไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากกินเนสส์แต่อย่างใดเพราะจำนวนการผลิตไม่ถึงเกณฑ์ ทำให้ Bugatti Veyron Grand Sport ยังนอนกอดตำแหน่งรถยนต์ที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลกของกินเนสส์อยู่จนถึงตอนนี้

 อันดับที่ 1 : Hennessey Venom GT

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Hennessey Venom GT
ภาพจาก venomgt

          ความเร็วสูงสุด : 435.3 กม./ชม.
          อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม :  วินาที
          ราคา : 32 ล้านบาท (ราคาในต่างประเทศ)


          Hennessey Venom GT ของค่ายรถแต่งจากสหรัฐอเมริกาที่นำพื้นฐานของ Lotus Exige ที่ประกอบขึ้นในอังกฤษเพื่อจำหน่ายให้กับบรรดาเศรษฐีที่หลงใหลความแรงยังคงรักษาตำแหน่งรถยนต์ที่เร็วที่สุดบนโลกใบนี้ของมหาชนคนทั่วไป แต่ยังไม่ใช่กับทาง กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ในฐานะรถ Production Car ที่เร็วที่สุดในโลกเนื่องจากจำนวนการผลิตที่ยังไม่ถึง 30 คัน รวมถึงการวิ่งเพื่อทำความเร็วไม่ครบทั้ง 2 ทิศทางอันไม่ตรงตามข้อกำหนดของกินเนสส์ แต่ระหว่างทดสอบก็พิสูจน์ชัดว่าวิ่งเร็วแตะระดับ 435.3 กม./ ชม. ได้จริง


          แม้ Hennessey Venom GT จะพลาดตำแหน่ง Production Car ที่เร็วที่สุดในโลกของกินเนสส์ แต่ก็ยังได้รับการยืนยันในฐานะรถยนต์ Production Car ที่มีอัตราเร่งจาก 0-300 กม./ ชม. เร็วที่สุดในโลกด้วยเวลาเพียง 13.63 วินาที ด้วยพลังจากเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 7.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 1,260 แรงม้า จากกินเนสส์ไปแทน

          ทั้งหมดนี้คือ 10 อันดับที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น Production Car หรือรถถนนที่เร็วที่สุดในโลก ซึ่งอันดับ 1 ก็มีแนวโน้มว่าจะถูกโค่นลงในไม่ช้า

          ซึ่งสำหรับเราผู้นั่งชมคงเป็นเรื่องบันเทิงที่เอามาคุยและถกเถียงได้อย่างสนุกสนาน ส่วนผู้ผลิตคงดูท่าจะไม่สนุกด้วยแน่ ๆ แต่ถ้าตราบใดที่รถพวกนี้ยังขายได้หมดเกลี้ยงเหมือน



               10อันดับบิกไบค์ ความเร็วสูง

10. BMW K 1200S: 280 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Large 10

9. Aprilia RSV 1000R Mille: 281 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Large 9

8. MV Agusta F4 1000R: 296 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Preload

7. Kawasaki Ninja ZX-14R: 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Preload

6. Yamaha YZF R1: 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Preload

5. Honda CBR1100XX Blackbird: 305 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Preload

4. Kawasaki Ninja H2R: 354 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Preload

3. MTT Turbine Superbike Y2K: 360 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Preload

2. Suzuki Hayabusa: 400 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Preload
Preload

1. Dodge Tomahawk: 675 กิโลเมตร/ชั่วโมง

10 อันดับรถมอเตอร์ไซค์ 10 หมวกกันน็อคสุดคุ้มค่าและใช้ดีประจำปี 2016

SHOEI GT-AIR $495-$604 GT-Air ถือว่าเป็นหมวกกันน็อคที่ยังคงเป็นรุ่นยอดนิยมและขายดีอย่างต่อเนื่อง เป็นที่รู้กันว่าเก็บเสียงค่อน...